ต้อนรับเดือนตุลาคม ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวมาถึงแล้ว

CATCH UP!

Vol.1 2021

สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองเหนือในสไตล์ล้านนาโคโลเนียลที่ Away Chiang Mai Thapae


ประตูท่าแพเป็นหนึ่งในโลเคชั่นยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางในการเยือนเชียงใหม่ เพราะการเดินทางที่สะดวกสบาย มีร้านค้า ร้านอาหาร วัด สถาปัตยกรรม รวมไปถึงถนนคนเดินเลื่องชื่อที่รอผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเชียงใหม่ นอกจากนี้ย่านท่าแพยังเต็มไปด้วยที่พักมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักไม่ว่าจะตามงบประมาณหรือตามสไตล์ก็ตอบโจทย์แทบทั้งสิ้น โดยหนึ่งในตัวเลือกที่พักที่นำมาแนะนำในครั้งนี้คือ Away Chiang Mai Thapae 


Away Chiang Mai Thapae รีสอร์ตขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยูในใจกลางย่านประตูท่าแพ ด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่ผสมผสานความเป็นล้านนาได้อย่างลงตัว ตัวอาคารสีขาวมองเห็นเด่นชัด สะกดสายตาผู้มาเยือนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มอง และเมื่อก้าวเข้าสู่ตัวรีสอร์ต ก็เสมือนหนึ่งได้หลุดเข้ามาอยู่ในโลกที่ปราศจากความวุ่นวาย ต่างจากความคึกคักของย่านท่าแพนอกรั้วรีสอร์ตโดยสิ้นเชิง

กลุ่มอาคารรูปตัว L สูง 4 ชั้น ล้อมรอบสระว่ายน้ำ ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 39 ห้อง 4 แบบห้องพัก มีขนาดตั้งแต่ 28-60 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์วินเทจที่แฝงเสน่ห์ของล้านนาไว้อย่างลงตัว รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างชื่อห้องที่ตั้งชื่อตามถนนสายต่างๆ ในเชียงใหม่ Amenities ที่เป็น Eco-Caring ทุกสิ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ขวดแก้ว และผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่แทนพลาสติก เรียกได้ว่า Every Detail Matters ที่แท้ทรู

นอกจากรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนของการออกแบบตกแต่งแล้ว ที่ Away Chiang Mai Thapae ยังมี Away Activities ให้ได้ร่วมสนุกทุกวันตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ ไม่ว่าจะเป็นการร้อยพวงมาลัย ทำธงล้านนา เพ้นต์ร่ม แกะสลักผลไม้ และการพับผ้าเช็ดตัวเป็นรูปต่างๆ เหมาะกับสายพักผ่อนที่อยากจะใช้เวลาอยู่ภายในโรงแรมแบบคุ้มค่า แต่สายเที่ยวก็ไม่ต้องน้อยใจ Away Chiang Mai Thapae มีจักรยานให้ยืมปั่นเที่ยวได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย


หน้าหนาวปีนี้ Away Chiang Mai Thapae กำลังรอเปิดประตูต้อนรับแขกแก้วทุกท่าน จองด่วนวันนี้ ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันได้ด้วยนะ!

BOOK NOW

เยือนนิมมานย่านสุดฮิปแห่งเมืองเหนือ แบบไม่กินอาหารเหนือ จะเป็นยังไงไปดูกัน!


แม้ว่าเชียงใหม่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่เชื่อได้ว่าอย่างไรย่านนิมมานเหมินทร์ก็จะต้องถูกนับรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะไปกางเต๊นท์ชมธรรมชาติที่ดอยไหน แต่สุดท้ายก็จะต้องมีสักวันครึ่งวันที่ต้องแวะมาเยี่ยมย่านนิมมานเหมินทร์แห่งนี้

และเมื่อพูดถึงนิมมานคงหนีไม่พ้นความชิคและความฮิปที่ดูจะเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ไปแล้ว ทั้งถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ตอบโจทย์ตั้งแต่สายถ่ายรูป สายคาเฟ่ คอกาแฟ หรือแม้แต่สายกินก็มีร้านอาหารหลากสไตล์ให้เลือกชิมทั้งร้านดังตามรีวิว หรือแม้แต่ร้านที่คนท้องถิ่นยกนิ้วให้


แต่ถ้าโจทย์คือเที่ยวเมืองเหนือ แต่ไม่อยากกินอาหารเหนือ ร้าน 4K Cafe (อ่านว่า “ฟอร์คคาเฟ่”) คือคำตอบ! เรียกได้ว่านี่เป็นร้านลับขั้น Hidden Gem ที่ซ่อนอยู่ในย่านนิมมาน ที่เรียกว่าซ่อนจริงๆ เพราะตั้งอยู่ในโรงแรม Cross Vibe Chiang Mai Decem อีกทีหนึ่ง ตัวโรงแรมคงคอนเซ็ปต์ของย่านนิมมานไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จัดเต็มมาทั้งความชิคของดีไซน์ ความฮิปของบรรยากาศ แต่เพิ่มความสะดวกสบายที่เป็น Pain Point ของย่านนิมมานก็คือการไม่มีที่จอดรถได้อย่างอยู่หมัด เพราะที่นี่ที่จอดรถเยอะมาก

4K Cafe แม้เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในโรงแรม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งอาหารและบรรยากาศที่นี่จัดว่าเด็ด เริ่มเบาๆ ที่สลัดอกไก่น้ำมันงา ราคา 59 บาท อาจจะดูว่าธรรมดา แต่สลัดจานนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะความสดของผัก รวมกับอกไก่ที่เชฟย่างมาอย่างดี ไม่แห้ง ไม่แข็ง เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดญี่ปุ่นสูตรเฉพาะ ยกเป็นจานเริ่มต้นที่ปลุกประสาทสัมผัสให้ตื่นอย่างไม่น่าเชื่อ


ต่อกันด้วยเต้าหู้ทอดราดซอสมะขาม (ราคา 59 บาท) เอาใจสายรักสุขภาพ เต้าหู้เหลืองชิ้นพอดิบพอดี ทอดจนเหลืองกรอบ ราดด้วยซอสมะขามรสชาติหวานอมเปรี้ยว หรือถ้าใครสายจัดเต็มจะสั่งเป็นกุ้งทอดราดซอสมะขาม (ราคา 250 บาท) ก็เด็ดดวงไม่แพ้กัน และที่ขาดไม่ได้คงเป็นพระเอกนางเอกของมื้อนี้ เปิดตัวนางเอกคนสวย อกเป็ดราดซอสพะแนงลิ้นจี่ (ราคา 250 บาท) อกเป็ดนุ่มละมุน ราดมาด้วยซอสพะแนงเข้มข้นตัดด้วยรสลิ้นจี่ ส่งให้จานนี้เป็นจานที่มีมิติ และไม่เลี่ยนความเป็นพะแนงอย่างที่กลัว คู่กันมากับพระเอกของมื้ออย่างต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน (ราคา 250 บาท) เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวอลังการ หอมกลิ่นเครื่องต้มยำ เข้มข้นด้วยมันกุ้ง รสชาติก็ถึงเครื่องจัดจ้านตามสไตล์อาหารไทย 


ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น Blue Decem ม็อคเทล Signature ของทางร้านรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จบมื้ออาหารที่ทั้งอร่อยตา (ถ่ายรูปสวย) อร่อยใจ (บรรยากาศดี) และอร่อยปาก (รสชาติคุ้นลิ้น) แบบคะแนน 10 10 10!


4K Cafe ในโรงแรม Cross Vibe Chiang Mai Decem

10/18 ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

(หลังห้างเมญ่า แยกรินทร์คำ)

โทร. 053 214 828


BOOK NOW

พร้อมหรือยัง “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” มาแล้วนะ


กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญยิ่งใหญ่ที่สายเที่ยวรอคอย “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” กลับมาครั้งนี้รัฐบาลใจป้ำเติมสิทธิ์ห้องพักให้ถึง 2,000,000 สิทธิ์ พร้อมด้วยเงื่อนไขเหมือนเดิม!


  • ค่าที่พัก 40% สูงสุด 3,000 บาท


  • คูปองสำหรับค่าอาหารและกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ 600 บาท/วัน 


  • ค่าตั๋วเครื่องบิน 40% สูงสุด 2,000 บาท


  • เริ่มจองห้องพักพร้อมกันวันแรก 8 ตุลาคมนี้ เวลา 6.00 น.


  • เข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2464 – 31 มกราคม 2565


วิธีจองโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

  1. จองห้องพักทางเว็บไซต์โดยกดปุ่ม Book Now มุมขวาบน จากนั้นใส่วันที่ต้องการเข้าพัก และกด Check Availability ระบบจะนำไปที่หน้าการจอง
  2. เลือกห้องพักที่ต้องการ จากนั้นกด Check Out กรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมรหัสบัตรประชาชน 4 ตัวท้าย และข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อยืนยันการจอง (รร.จะไม่ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต แต่ลูกค้าต้องใส่เพื่อให้การจองสมบูรณ์)
  3. ราคาที่แสดงยังไม่หักส่วนลด 40%
  4. ระบบจะส่งแจ้งเตือนการจ่ายเงินไปที่แอพเป๋าตังภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากจองสำเร็จ (ลูกค้าชำระ 60% จากยอดสรุป) ให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่านแอพ จากนั้นจะได้รับการยืนยันการจอง เพื่อใช้สำหรับแสดงในวันเช็คอิน


โรงแรมและรีสอร์ตที่ร่วมรายการ

Away Chiang Mai Thapae
Cross River Kwai
Cross Pattaya Oceanphere
Cross Kui Buri Tolani
Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
Cross Vibe Chiang Mai Decem
Cross Vibe Buriram

Cross Vibe Pattaya Seaphere



BOOK NOW

สนุกสนานกับ Quest of the Day ที่โรงแรมในเครือ Cross Vibe


ถ้าหนึ่งใน Activity ของคุณเมื่อมาโรงแรมคือการถ่ายรูป คุณมาถูกทางแล้วค่ะ! โรงแรมในเครือ Cross Vibe ชวนคุณมาร่วมสนุกกับ Quest of the Day กับการถ่ายภาพกับมุม Instagrammable ที่มีอยู่ทั่วไปในทุกโรงแรมในเครือ Cross Vibe ไม่ว่าจะเป็น

BOOK NOW

เปิดตัวที่พักสัตว์เลี้ยงเข้าได้ล่าสุดของพัทยา Cross Vibe Pattaya Seaphere


พัทยา ชายหาดอันดับต้นๆ ที่เป็นที่นิยมของประเทศไทย คิดไม่ออกว่าจะไปไหนก็ไปเที่ยวพัทยาละกัน แต่ช่วงที่ต้อง Social Distancing จะชวนเพื่อน ชวนญาติไปก็คงไม่เหมาะ จะมีก็แต่เพื่อนตัวเล็กที่บ้าน ที่พอจะพาไปเที่ยวด้วยกันได้ แต่ปัญหาก็เกิดอีกตรงที่โรงแรมที่สวยพอจะไปพักผ่อน ดันไม่รับน้องนี่สิ เหล่าคุณพ่อคุณแม่คงกลุ้มน่าดู

Cross Vibe Pattaya Seaphere พร้อมแก้ปัญหานี้แล้วนะรู้ยัง? โรงแรมสวยติดทุกท๊อปเสิร์ชของที่พักพัทยา วันนี้เปิดรับสัตว์เลี้ยงเข้าพักแล้ว! พ่อๆ แม่ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเพื่อนเที่ยวอีกต่อไป แพ็คกระเป๋าพาน้องมาเที่ยวด้วยกันได้เลย


Cross Vibe Pattaya Seaphere ตั้งอยู่ที่หาดบ้านอำเภอ ห่างออกมาจากพัทยาแค่ 10 นาที แต่ความสวย ความสงบบอกเลยว่ากินขาด ตัวโรงแรมมี 8 ชั้น 4 แบบห้อง พร้อมห้องอาหารให้บริการอาหารแบบ All-Day Dining ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน สระว่ายน้ำวิวทะเลแบบพาโนรามา และ Rooftop Bar สุดชิค โดยอยู่ห่างจากทะเลเพียง 100 เมตร สามารถพาน้องๆ วิ่งเล่นชิวๆ ริมทะเลได้เลย เรียกว่าฟินได้ทั้งครอบครัว

บอกข้อมูลกันเล็กน้อยว่าน้องๆ จะเข้าพักได้ที่ห้อง One-Bedroom Deluxe Garden View มีค่าใช้จ่าย 500 บาท/ตัว/คืน โดยจะที่โรงแรมจะรับเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัมเท่านั้น 


อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้วอย่ารอช้า กดจองแล้วแพ็คกระเป๋าเตรียมเดินทางกันเลย!

BOOK NOW

ชวนตามรอยน้องลิซ่า เที่ยวบุรีรัมย์สไตล์คนคูลๆ


ช่วงนี้กระแสฮิตของเมืองไทยคงหนีไม่พ้นเพลงใหม่ของน้องลิซ่า วงแบล็กพิ้งค์ ที่ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน หรือแม้แต่ไถโซเชียลมีเดียอยู่ที่บ้านก็ยังได้ยิน! ย้อนความถึงน้องลิซ่าสักนิด น้องลิซ่าเป็นคนไทยที่ไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศเกาหลี เป็น 1 ในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปชั้นแนวหน้าอย่างแบล็กพิ้งค์ โดยล่าสุดน้องลิซ่าได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยว ที่มีเพลงโปรโมทอย่างเพลง Lalisa ซึ่งมาจากชื่อจริงของน้องคือ “ลลิษา” นั่นเอง จุดพีคที่ทำให้กลายเป็นกระแสโด่งดังในบ้านเราก็คือในมิวสิควีดีโอของเพลงนี้มีฉากที่น้องลิซ่าใส่ชุดไทยประยุกต์และสวมชฎา อีกทั้งยังมีฉากที่มีพื้นหลังเป็นปราสาทหินพนมรุ้ง ไม่เพียงเท่านั้นน้องลิซ่ายังมีการพูดถึงลูกชิ้นยืนกิน อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องอีกด้วย นำมาสู่กระแส “ลิซ่าฟีเวอร์” ในขณะนี้


เชื่อว่าพอเป็นกระแสก็ต้องมีคนอยากตามรอยอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเก็บกระเป๋า แล้วไปเที่ยวตามรอยน้องลิซ่าด้วยกันได้เลย เริ่มที่ ลูกชิ้นยืนกิน ของกินเล่นชื่อดังของจังหวัด แรกเริ่มเดิมทีลูกชิ้นยืนกินเป็นร้านรถเข็นที่ขายกันอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ต่อมาเมื่อได้รับความนิยม จึงได้ขยับขยายจัดที่ทางใหม่เป็นตลาดลูกชิ้นยืนกินที่ดูสะอาดและถูกสุขลักษณะมากขึ้น ลูกชิ้นยืนกินนี้มีให้เลือกหลายร้าน ราคาเพียง 20 บาทได้ถึง 7 ไม้ด้วยกัน แต่ละร้านจะแตกต่างกันที่สูตรน้ำจิ้ม เจ้าไหนจะเด็ดโดนใจก็แวะไปลองกันได้เลย


อิ่มท้องแล้วเดินทางกันต่อ เพื่อมาที่บุรีรัมย์ คาสเซิล (BURIRAM CASTLE) หรือปราสาทหินพนมรุ้งจำลองนั่นเอง โดยปราสาทหินนี้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อยู่ระหว่างสนามช้างอารีน่าและสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ภายในบริเวณประกอบด้วยตัวปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง สวนไม้ดอกไม้ประดับ และอเวนิวที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย ที่นี่ตอบโจทย์ของคนที่อยากมาแชะรูปตามรอยน้องลิซ่าแบบไม่ต้องออกนอกเมืองไปไกล ต่อให้มีเวลาน้อยสามารถเที่ยวแลนด์มาร์คของบุรีรัมย์ได้อย่างครบถ้วน



เมื่ออิ่มท้องกับลูกชิ้นยืนกิน อิ่มใจกับบรรยากาศปราสาทหินพนมรุ้ง พร้อมแชะภาพลงโซเชียลติดแฮชแท็กตามรอยน้องลิซ่าเรียบร้อย ก็ได้เวลาพักผ่อน ที่ Cross Vibe Buriram หนึ่งในโรงแรมชั้นนำของบุรีรัมย์ที่คนชิคๆ คูลๆ เลือกเข้าพัก โรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์สปอร์ตเข้ากับธีมบุรีรัมย์ที่เป็น Sport City มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ไม่ว่าจะเอาไว้แชะภาพกับบิกินี่อวดเพื่อนๆ หรือว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายก็เหมาะทั้งสิ้น อีกทั้งที่นี่ยังมีห้องอาหาร 4K Cafe ไว้บริการอาหารแบบ All-Day Dining แถมถ้าวันไหนมีฟุตบอลแมชต์สำคัญก็สามารถมานั่งลุ้นไปกับคอเดียวที่กันหน้าจอขนาดใหญ่ก็ย่อมได้ กระซิบดังๆ ตรงนี้ว่าโรงแรม Cross Vibe Buriram ร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันด้วยนะ


ต้องขอบคุณน้องลิซ่าที่ช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เที่ยวเมืองไทย ไม่ไป ไม่รู้จริงๆนะ!

BOOK NOW

SHARE TO..

Share by: